วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

10.วิธีการและเครื่องมือประเมินหลักสูตร

 การประเมินหลักสูตรจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ

 

   ในระบบการประกันคุณภาพภายในของทุกสถาบันการศึกษา มีการกำหนดให้มีการประเมินหลักสูตร เพื่อการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นตัวชี้วัดหรือเกณฑ์คุณภาพสำคัญตัวหนึ่ง สำหรับการประกันคุณภาพภายใน การดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นร่องรอยของความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาหลักสูตร ความพยายามในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพและผลความสำเร็จของการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพตรงตามหลักสูตรและความต้องการของสังคม พร้อมทั้งเป็นการรองรับการตรวจประเมินภายนอกจาก สมศ.





รูปที่ 1.1 ระยะของการประเมินหลักสูตร


การประเมินขั้นออกแบบหรือร่างหลักสูตร

     เป็นการประเมินรายละเอียดของหลักสูตรโดยพิจารณาคุณภาพของสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรประกอบด้วย3ส่วนได้แก่ 1) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2)คุณลักษณะของผู้สอนคุณลักษณะของผู้เรียนปริมาณและคุณภาพของโสตทัศนูปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้หลักสูตรและ  3)กิจกรรมของผู้สอนและผู้เรียนที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้หลักสูตรเช่นการจัดการเรียนการสอนโดยนำทั้งสามส่วนนี้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของการใช้หลักสูตรที่กำหนดไว้



การประเมินหลักสูตรก่อนการนำหลักสูตรไปใช้

 การประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้ (Project Analysisช่วยทำให้ทราบว่าเอกสารหลักสูตรมีความถูกต้อง หรือไม่ มีความชัดเจนอ่านแล้วเข้าใจตรงกันหรือไม่ ทรัพยากรที่ใช้ในหลักสูตรมีเพียงพอหรือไม่ผู้บริหาร และผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจในหลักสูตรที่จะใช้เพียงใด แผนการใช้หลักสูตรมีความชัดเจนเพียงใด ซึ่งการประเมินหลักสูตรก่อนการใช้หลักสูตร เป็นปัจจัยเอื้อต่อการใช้หลักสูตรอย่างมีประสิทธิภาพการวัดและประเมินผลการเรียนซึ่งสามารถทำได้ 2 ลักษณะคือ
1. ประเมินหลักสูตรเมื่อสร้างหลักสูตรฉบับร่างเสร็จแล้วก่อนจะนำหลักสูตรไปใช้จริงควรมีการประเมินตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรฉบับร่างและองค์ประกอบต่างๆ ของหลักสูตรการประเมินหลักสูตรในระยะนี้ต้องอาศัยความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาหลักสูตรทางด้านวิชาชีพครูทางด้านการวัดผลหรือจะให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์หรือพิจารณาก็ได้

2. ประเมินผลในขั้นตอนทดลองใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขส่วนที่ขาดตกบกพร่องหรือเป็นปัญหาให้มีความสมบูรณ์เพื่อประสิทธิภาพในการนำไปใช้ต่อไปเช่นหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521 มีการทดลองใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2519 และ 2520 เพื่อหาข้อบกพร่องอุปสรรคจะได้แก้ไขให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไป



การประเมินหลักสูตรระหว่างดำเนินการใช้หลักสูตร

การประเมินหลักสูตรระหว่างการดำเนินการใช้หลักสูตร (Formative Evaluationช่วยทำให้ทราบว่าการใช้หลักสูตรมีประสิทธิภาพเพียงใด เช่น การบริหารงานวิชาการ การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลสื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียน เป็นต้น การประเมินระหว่างใช้หลักสูตรเน้นการประเมินเพื่อปรับปรุงและพัฒนา (evaluation for improvement) เป็นสำคัญในขณะที่มีการดำเนินการใช้หลักสูตรที่จัดทำขึ้นควรมีการประเมินเพื่อตรวจสอบว่าหลักสูตรสามารถนำไปใช้ได้ดีเพียงใดหรือบกพร่องในจุดไหนจะได้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมเช่นประเมินกระบวนการใช้หลักสูตรในด้านการบริหารการจัดการหลักสูตรการนิเทศกำกับดูแลและการจัดกระบวนการเรียนการสอน


การประเมินหลังจากการใช้หลักสูตรครบวงจร

การประเมินหลักสูตรหลังการใช้หลักสูตร (Summative Evaluation)หลังจากที่มีการใช้หลักสูตรมาแล้วระยะหนึ่งคือครบกระบวนการเรียบร้อยแล้วควรจะประเมินหลักสูตรทั้งระบบซึ่งได้แก่การประเมินองค์ประกอบด้านต่างๆ ของหลักสูตรทั้งหมดคือเอกสารหลักสูตรวัสดุหลักสูตรบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรการบริหารหลักสูตรการนิเทศกำกับติดตามการจัดกระบวนการเรียนการสอน ฯลฯ เพื่อสรุปผลตัดสินว่าหลักสูตรที่จัดทำขึ้นนั้นควรจะดำเนินการใช้ต่อไปหรือควรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นหรือควรจะยกเลิกเช่นหลักสูตรประถมศึกษาพุทธศักราช 2521 มีช่วงระยะการใช้งาน 6 ปีเมื่อครบ 6 ปีแล้วจะมีการประเมินผลหลักสูตรรวบยอดทั้งหมดโดยนำข้อมูลตั้งแต่ระยะที่ 1 จนถึงระยะที่ 2 มารวบรวมวิเคราะห์และประเมินคุณค่าทั้งนี้อาจจะต้องอาศัยข้อมูลที่สำคัญอีกบางข้อมูลเช่นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนซึ่งได้แก่การนำไปใช้ในการดำรงชีวิตการประกอบอาชีพเข้ามาประกอบการวิเคราะห์และประเมินค่าด้วย


การประเมินผลกระทบของหลักสูตร


            1. ประเมินด้านการวางแผนการประเมินหลักสูตร การประเมินหลักสูตรมักไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้ขาดความละเอียดรอบคอบในการประเมินผล และไม่ครอบคลุมสิ่งที่ต้องการประเมิน

            2. ประเมินด้านเวลา การกำหนดเวลาไม่เหมาะสมการประเมินหลักสูตร ไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด ทำให้ได้ข้อมูลเนิ่นช้าไม่ทันต่อการนำมาปรับปรุงหลักสูตร

            3. ประเมินด้านความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการประเมินหลักสูตร คณะกรรมการประเมินหลักสูตรไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องหลักสูตรที่จะประเมิน หรือไม่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินผล ทำให้ผลการประเมินที่ได้ไม่น่าเชื่อถือ ขาดความละเอียดรอบคอบ ซึ่งมีผลทำให้การแก้ไขปรับปรุงปัญหาของหลักสูตรไม่ตรงประเด็น

            4. ประเมินด้านความเที่ยงตรงของข้อมูล ข้อมูลที่ไม่ใช้ในการประเมินไม่เที่ยงตรงเนื่องจากผู้ประเมินมีความกลัวเกี่ยวกับผลการประเมิน จึงทำให้ไม่ได้เสนอข้อมูลตามสภาพความเป็นจริงหรือผู้ถูกประเมินกลัวว่าผลการประเมินออกมาไม่ดี จึงให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง

            5.ประเมินด้านวิธีการประเมิน การประเมินหลักสูตรส่วนมากมาจากการประเมินในเชิงปริมาณ ทำให้ได้ข้อค้นพบที่ผิวเผินไม่ลึกซึ้ง จึงควรมีการประเมินผลที่ใช้วิธีการประเมินเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลสมบูรณ์และมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

            6.ประเมินด้านการประเมินหลักสูตรทั้งระบบ การประเมินหลักสูตรทั้งระบบมีการดำเนินงานน้อยมาก ส่วนมากมักจะประเมินผลเฉพาะด้าน เช่น ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในด้านวิชาการ (Academic Achievement) เป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด



หลักเกณฑ์ในการประเมินหลักสูตร

 1. มีจุดประสงค์ในการประเมินที่แน่นอน การประเมินผลหลักสูตรจะต้องกำหนดลงไปให้แน่นอนชัดเจนว่าประเมินอะไร
     2. มีการวัดที่เชื่อถือได้ โดยมีเครื่องมือและเกณฑ์การวัดซึ่งเป็นที่ยอมรับ
   3. ข้อมูลเป็นจริงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการประเมินผล ดังนั้น ข้อมูลจะต้องได้มาอย่างถูกต้องเชื่อถือได้และมากพอที่จะใช้เป็นตัวประเมินค่าหลักสูตรได้
    4. มีขอบเขตที่แน่นอนชัดเจนว่าเราต้องการประเมินในเรื่องใดแค่ไหน
    5. ประเด็นของเรื่องที่จะประเมินอยู่ในช่วงเวลาของความสนใจ
  6. การรวบรวมข้อมูลมาเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ และกำหนดเครื่องมือในการประเมินผลจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
   7. การวิเคราะห์ผลการปะเมินต้องทำอย่างระมัดระวังรอบคอบ และให้มีความเที่ยงตรงในการพิจารณา
    8. การประเมินผลหลักสูตรควรใช้วิธีการหลายๆ วิธี
    9. มีเอกภาพในการตัดสินผลการประเมิน

 10. ผลต่างๆ ที่ได้จากการประเมินควรนำไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตรทั้งในด้านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในโอกาสต่อไป เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ดี และมีคุณค่าสูงสุดตามที่ต้องการ

ขั้นตอนในการประเมินหลักสูตร

            1.วิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้เชิงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ซึ่งประกอบด้วย สาระสาคัญของการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน

            2.ระบุสถานการณ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความรู้ความสามารถของตนเองที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้

            3.คัดเลือกวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรง(validity)ความเชื่อมั่น(reliability)และความเป็นปรนัย(objectivity)

            4.เก็บรวบรวมข้อมูลที่นำไปสู่การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย

            5.เปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บรวบรวมกับเกณฑ์หรือมาตรฐานการประเมินรวมทั้งลงสรุปผลการประเมิน

            6.วิเคราะห์ผลการประเมินเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร

            7.นำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องเมื่อสรุปผลการประเมินแล้วจะต้องนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้สาหรับการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นต่อไป


การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model)

               การประเมินหลักสูตรแบบซิป (CIPP Model) นี้เป็นการประเมินสภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากที่สุดจะกล่าวได้อีกนัยหนึ่งก็คือ การประเมินหลักสูตรแบบซิป (CIPP Model) เป็นแนวทางในการดำเนินการนั้นก็คือการประเมินระบบหลักสูตรนั่นเองการประเมินผลหลักสูตรตามรูปแบบของ ฟาย เตลตา แคบปา (The Phi Delta Cappa Committee Model) รูปแบบการประเมินหลักสูตรตามแนวความคิดนี้ ได้รับการพัฒนามาจากแนวความคิดในการประเมินโครงการของแดนเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebeam) การประเมินผลในรูปแบบนี้นิยมเรียกชื่อว่า CIPP Model โดยหลักการของการประเมินหลักสูตรตามรูปแบบซิป (CIPP  Model) จะมุ่งการปะเมินสภาพการณ์ต่าง ๆ ของหลักสูตร 4 ส่วนด้วยกันคือ 

                    4.1  การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C) เป็นการประเมินสภาพ ปัญหาและความต้องการของสังคมตลอดจนปรัชญาและแนวคิดต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การกำหนด จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 

                   4.2  การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation-I) เป็นการตรวจสอบสภาพและความพร้อมของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร เช่น อาคาร สถานที่ บุคลากร งบประมาณ ฯลฯ 

                    4.3  การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation-P) เป็นการประเมินกระบวนการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการบริหารและบริการหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนกระบวนการส่งเสริมการใช้หลักสูตร เป็นต้น 

                    4.4  การประเมินผลิตผล (Product Evaluation-P) เป็นการประเมินผลิตผลที่ได้จากหลักสูตรว่าตรงกับเจตนารมณ์และเป้าหมายของหลักสูตร หรือเป็นไปตามความคาดหวังหรือความต้องการของสังคมเพียงใด


อ้างอิง : บ้านครูเจนจิรา.(2021).การประเมินหลักสูตร,สืบค้นเมื่อวันที่25สิงหาคม. 2564.จาก.https://sites.google.com/a/crru.ac.th/ban-khunkhru-cen-ci-ra/bth-thi-7-kar-pramein-hlaksut

              สุพรรณี บุญชาญ.(2560).การประเมินหลักสูตร,สืบค้นเมื่อวันที่25สิงหาคม2564.จาก.http://603150110295.blogspot.com/2018/10/10.html



                                                    แบบทดสอบแบบปรนัย


1.ระยะในการประเมินหลักสูตรมีกี่ระยะ

ก. 2 ระยะ
ข. 3 ระยะ
ค. 4 ระยะ
ง. 5 ระยะ

2.ข้อใดคือการประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้

ก. Input Evaluation-I
ข. Summative Evaluation
ค. Project Analysis
ง. Formative Evaluation

3.ข้อใดคือการประเมินหลักสูตรระหว่างดำเนินการใช้หลักสูตร

ก. Input Evaluation-I
ข. Summative Evaluation
ค. Project Analysis
ง. Formative Evaluation

4.ข้อใดคือการประเมินหลังจากการใช้หลักสูตรครบวงจร

ก. Input Evaluation-I
ข. Summative Evaluation
ค. Project Analysis
ง. Formative Evaluation

5.การนำผลการดำเนินงานของหลักสูตรหนึ่งไปเปรียบเทียบกับผลของหลักสูตรอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันเป็นการกำหนดเกณฑ์การประเมินแบบใด

ก.เกณฑ์สัมบูรณ์               ข.เกณฑ์สัมพัทธ์
ค.เกณฑ์โมเดลความงอกงาม ง.เกณฑ์เชิงปริมาณ

6.ในการวางแผนประเมินหลักสูตร ข้อใดมาจากคำว่าประเมินอะไร

ก.การประเมินนี้จะทำเมื่อมีผู้สำเร็จตามหลักสูตร
ข.การประเมินครั้งนี้ใช้ทั้งแบบสังเกตและแบบสัมภาษณ์
ค.การประเมินทำระหว่างกำลังใช้หลักสูตร
ง.ประเมินหลักสูตรว่าบรรลุจุดประสงค์หลักสูตรเพียงใด

7.การที่สามารถบอกว่า หลักสูตรบรรลุตามเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ ทราบได้จากข้อใด

ก. กำหนดขอบเจต            ข. การออกแบบหลักสูตร
ค. การใช้หลักสูตร             ง. การประเมินผล

8.ข้อใดคือการประเมินสภาพแวดล้อม 

ก. Product Evaluation-P
ข. Context Evaluation-C
ค. Process Evaluation-P
ง. Input Evaluation-I

9.ข้อใดคือการประเมินปัจจัยเบื้องต้น

ก. Product Evaluation-P
ข. Context Evaluation-C
ค. Process Evaluation-P
ง. Input Evaluation-I

10. ข้อใดคือการประเมินผลิตผล

ก. Product Evaluation-P
ข. Context Evaluation-C
ค. Process Evaluation-P
ง. Input Evaluation-I


                                    แบบทดสอบแบบอัตนัย


1.การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model) คืออะไร จงอธิบาย

ตอบ............................................................................................


2.การประเมินรายละเอียดของหลักสูตรโดยพิจารณาคุณภาพของสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรประกอบด้วยกี่ส่วน อะไรบ้าง

ตอบ............................................................................................


3.การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model) ประกอบด้วยอะไรบ้าง

ตอบ............................................................................................


4.การประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง

ตอบ............................................................................................


5. การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C) คืออะไร จงอธิบาย

ตอบ............................................................................................




แนวคำตอบ

1) ตอบ  เป็นการประเมินสภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากที่สุด


2) ตอบ 1) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 

2)คุณลักษณะของผู้สอนคุณลักษณะของผู้เรียนปริมาณและคุณภาพของโสตทัศนูปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้หลักสูตร

 3)กิจกรรมของผู้สอนและผู้เรียนที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้หลักสูตร 


3) ตอบ   4.1  การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C) 

4.2  การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation-I)

4.3  การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation-P)

4.4  การประเมินผลิตผล (Product Evaluation-P) 


4) ตอบ 1. ประเมินหลักสูตรเมื่อสร้างหลักสูตรฉบับร่างเสร็จแล้วก่อนจะนำหลักสูตรไปใช้จริง

2. ประเมินผลในขั้นตอนทดลองใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขส่วนที่ขาดตกบกพร่องหรือเป็นปัญหาให้มีความสมบูรณ์

5) ตอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น