การประเมินหลักสูตรจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ
ในระบบการประกันคุณภาพภายในของทุกสถาบันการศึกษา มีการกำหนดให้มีการประเมินหลักสูตร เพื่อการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นตัวชี้วัดหรือเกณฑ์คุณภาพสำคัญตัวหนึ่ง สำหรับการประกันคุณภาพภายใน การดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นร่องรอยของความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาหลักสูตร ความพยายามในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพและผลความสำเร็จของการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพตรงตามหลักสูตรและความต้องการของสังคม พร้อมทั้งเป็นการรองรับการตรวจประเมินภายนอกจาก สมศ.
การประเมินขั้นออกแบบหรือร่างหลักสูตร
เป็นการประเมินรายละเอียดของหลักสูตรโดยพิจารณาคุณภาพของสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรประกอบด้วย3ส่วนได้แก่ 1) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2)คุณลักษณะของผู้สอนคุณลักษณะของผู้เรียนปริมาณและคุณภาพของโสตทัศนูปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้หลักสูตรและ 3)กิจกรรมของผู้สอนและผู้เรียนที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้หลักสูตรเช่นการจัดการเรียนการสอนโดยนำทั้งสามส่วนนี้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของการใช้หลักสูตรที่กำหนดไว้
การประเมินหลักสูตรก่อนการนำหลักสูตรไปใช้
การประเมินหลักสูตรระหว่างดำเนินการใช้หลักสูตร
การประเมินหลักสูตรระหว่างการดำเนินการใช้หลักสูตร (Formative Evaluation) ช่วยทำให้ทราบว่าการใช้หลักสูตรมีประสิทธิภาพเพียงใด เช่น การบริหารงานวิชาการ การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลสื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียน เป็นต้น การประเมินระหว่างใช้หลักสูตรเน้นการประเมินเพื่อปรับปรุงและพัฒนา (evaluation for improvement) เป็นสำคัญในขณะที่มีการดำเนินการใช้หลักสูตรที่จัดทำขึ้นควรมีการประเมินเพื่อตรวจสอบว่าหลักสูตรสามารถนำไปใช้ได้ดีเพียงใดหรือบกพร่องในจุดไหนจะได้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมเช่นประเมินกระบวนการใช้หลักสูตรในด้านการบริหารการจัดการหลักสูตรการนิเทศกำกับดูแลและการจัดกระบวนการเรียนการสอน
การประเมินหลังจากการใช้หลักสูตรครบวงจร
การประเมินหลักสูตรหลังการใช้หลักสูตร (Summative Evaluation)หลังจากที่มีการใช้หลักสูตรมาแล้วระยะหนึ่งคือครบกระบวนการเรียบร้อยแล้วควรจะประเมินหลักสูตรทั้งระบบซึ่งได้แก่การประเมินองค์ประกอบด้านต่างๆ ของหลักสูตรทั้งหมดคือเอกสารหลักสูตรวัสดุหลักสูตรบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรการบริหารหลักสูตรการนิเทศกำกับติดตามการจัดกระบวนการเรียนการสอน ฯลฯ เพื่อสรุปผลตัดสินว่าหลักสูตรที่จัดทำขึ้นนั้นควรจะดำเนินการใช้ต่อไปหรือควรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นหรือควรจะยกเลิกเช่นหลักสูตรประถมศึกษาพุทธศักราช 2521 มีช่วงระยะการใช้งาน 6 ปีเมื่อครบ 6 ปีแล้วจะมีการประเมินผลหลักสูตรรวบยอดทั้งหมดโดยนำข้อมูลตั้งแต่ระยะที่ 1 จนถึงระยะที่ 2 มารวบรวมวิเคราะห์และประเมินคุณค่าทั้งนี้อาจจะต้องอาศัยข้อมูลที่สำคัญอีกบางข้อมูลเช่นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนซึ่งได้แก่การนำไปใช้ในการดำรงชีวิตการประกอบอาชีพเข้ามาประกอบการวิเคราะห์และประเมินค่าด้วย
การประเมินผลกระทบของหลักสูตร
1. ประเมินด้านการวางแผนการประเมินหลักสูตร การประเมินหลักสูตรมักไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้ขาดความละเอียดรอบคอบในการประเมินผล และไม่ครอบคลุมสิ่งที่ต้องการประเมิน
2. ประเมินด้านเวลา การกำหนดเวลาไม่เหมาะสมการประเมินหลักสูตร ไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด ทำให้ได้ข้อมูลเนิ่นช้าไม่ทันต่อการนำมาปรับปรุงหลักสูตร
3. ประเมินด้านความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการประเมินหลักสูตร คณะกรรมการประเมินหลักสูตรไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องหลักสูตรที่จะประเมิน หรือไม่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินผล ทำให้ผลการประเมินที่ได้ไม่น่าเชื่อถือ ขาดความละเอียดรอบคอบ ซึ่งมีผลทำให้การแก้ไขปรับปรุงปัญหาของหลักสูตรไม่ตรงประเด็น
4. ประเมินด้านความเที่ยงตรงของข้อมูล ข้อมูลที่ไม่ใช้ในการประเมินไม่เที่ยงตรงเนื่องจากผู้ประเมินมีความกลัวเกี่ยวกับผลการประเมิน จึงทำให้ไม่ได้เสนอข้อมูลตามสภาพความเป็นจริงหรือผู้ถูกประเมินกลัวว่าผลการประเมินออกมาไม่ดี จึงให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง
5.ประเมินด้านวิธีการประเมิน การประเมินหลักสูตรส่วนมากมาจากการประเมินในเชิงปริมาณ ทำให้ได้ข้อค้นพบที่ผิวเผินไม่ลึกซึ้ง จึงควรมีการประเมินผลที่ใช้วิธีการประเมินเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลสมบูรณ์และมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
6.ประเมินด้านการประเมินหลักสูตรทั้งระบบ การประเมินหลักสูตรทั้งระบบมีการดำเนินงานน้อยมาก ส่วนมากมักจะประเมินผลเฉพาะด้าน เช่น ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในด้านวิชาการ (Academic Achievement) เป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
หลักเกณฑ์ในการประเมินหลักสูตร
ขั้นตอนในการประเมินหลักสูตร
1.วิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้เชิงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ซึ่งประกอบด้วย สาระสาคัญของการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
2.ระบุสถานการณ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความรู้ความสามารถของตนเองที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
3.คัดเลือกวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรง(validity)ความเชื่อมั่น(reliability)และความเป็นปรนัย(objectivity)
4.เก็บรวบรวมข้อมูลที่นำไปสู่การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย
5.เปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บรวบรวมกับเกณฑ์หรือมาตรฐานการประเมินรวมทั้งลงสรุปผลการประเมิน
6.วิเคราะห์ผลการประเมินเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร
7.นำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องเมื่อสรุปผลการประเมินแล้วจะต้องนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้สาหรับการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นต่อไป
การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model)
การประเมินหลักสูตรแบบซิป (CIPP Model) นี้เป็นการประเมินสภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากที่สุดจะกล่าวได้อีกนัยหนึ่งก็คือ การประเมินหลักสูตรแบบซิป (CIPP Model) เป็นแนวทางในการดำเนินการนั้นก็คือการประเมินระบบหลักสูตรนั่นเองการประเมินผลหลักสูตรตามรูปแบบของ ฟาย เตลตา แคบปา (The Phi Delta Cappa Committee Model) รูปแบบการประเมินหลักสูตรตามแนวความคิดนี้ ได้รับการพัฒนามาจากแนวความคิดในการประเมินโครงการของแดนเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebeam) การประเมินผลในรูปแบบนี้นิยมเรียกชื่อว่า CIPP Model โดยหลักการของการประเมินหลักสูตรตามรูปแบบซิป (CIPP Model) จะมุ่งการปะเมินสภาพการณ์ต่าง ๆ ของหลักสูตร 4 ส่วนด้วยกันคือ
4.1 การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C) เป็นการประเมินสภาพ ปัญหาและความต้องการของสังคมตลอดจนปรัชญาและแนวคิดต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การกำหนด จุดมุ่งหมายของหลักสูตร
4.2 การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation-I) เป็นการตรวจสอบสภาพและความพร้อมของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร เช่น อาคาร สถานที่ บุคลากร งบประมาณ ฯลฯ
4.3 การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation-P) เป็นการประเมินกระบวนการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการบริหารและบริการหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนกระบวนการส่งเสริมการใช้หลักสูตร เป็นต้น
4.4 การประเมินผลิตผล (Product Evaluation-P) เป็นการประเมินผลิตผลที่ได้จากหลักสูตรว่าตรงกับเจตนารมณ์และเป้าหมายของหลักสูตร หรือเป็นไปตามความคาดหวังหรือความต้องการของสังคมเพียงใด
แบบทดสอบแบบปรนัย
1.ระยะในการประเมินหลักสูตรมีกี่ระยะ
2.ข้อใดคือการประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้
3.ข้อใดคือการประเมินหลักสูตรระหว่างดำเนินการใช้หลักสูตร
4.ข้อใดคือการประเมินหลังจากการใช้หลักสูตรครบวงจร
5.การนำผลการดำเนินงานของหลักสูตรหนึ่งไปเปรียบเทียบกับผลของหลักสูตรอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันเป็นการกำหนดเกณฑ์การประเมินแบบใด
6.ในการวางแผนประเมินหลักสูตร ข้อใดมาจากคำว่าประเมินอะไร
7.การที่สามารถบอกว่า หลักสูตรบรรลุตามเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ ทราบได้จากข้อใด
ก. กำหนดขอบเจต ข. การออกแบบหลักสูตรค. การใช้หลักสูตร ง. การประเมินผล
8.ข้อใดคือการประเมินสภาพแวดล้อม
9.ข้อใดคือการประเมินปัจจัยเบื้องต้น
10. ข้อใดคือการประเมินผลิตผล
แบบทดสอบแบบอัตนัย
1.การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model) คืออะไร จงอธิบาย
ตอบ............................................................................................
2.การประเมินรายละเอียดของหลักสูตรโดยพิจารณาคุณภาพของสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรประกอบด้วยกี่ส่วน อะไรบ้าง
ตอบ............................................................................................
3.การประเมินหลักสูตรแบบซิป(CIPP Model) ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ............................................................................................
4.การประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง
ตอบ............................................................................................
5. การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C) คืออะไร จงอธิบาย
ตอบ............................................................................................
แนวคำตอบ
1) ตอบ เป็นการประเมินสภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมมากที่สุด
2) ตอบ 1) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
2)คุณลักษณะของผู้สอนคุณลักษณะของผู้เรียนปริมาณและคุณภาพของโสตทัศนูปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้หลักสูตร
3)กิจกรรมของผู้สอนและผู้เรียนที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้หลักสูตร
3) ตอบ 4.1 การประเมินสภาพแวดล้อม (Context Evaluation-C)
4.2 การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation-I)
4.3 การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation-P)
4.4 การประเมินผลิตผล (Product Evaluation-P)
4) ตอบ 1. ประเมินหลักสูตรเมื่อสร้างหลักสูตรฉบับร่างเสร็จแล้วก่อนจะนำหลักสูตรไปใช้จริง
5) ตอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น